
พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน
พระตำหนักภูพานคู่เมือง
งามลือเลื่องหนองหาน
แลตระการปราสาทผึ้ง
สวยสุดซึ้งสาวภูไท
ถิ่นมั่นในพุทธธรรม

พระธาตุเชิงชุม

วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน : ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ริมหนองหาน ถนนเจริญเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร สร้างครอบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ได้แก่ พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระนามกกุสันธะ พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระนามโกนาคมนะ พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระนามกัสสปะ พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าพระนามโคตมะ เป็นพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง เดิมเรียกตามสถานที่ว่า “พระธาตุหนองหาน” งานมนัสการพระธาตุเชิงชุม มีประจำทุกปี ปกติเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือนยี่ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
พระตำหนักภูพานคู่เมือง : พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2518 บนพื้นที่ 1,950 ไร่ ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายสกลนคร-กาฬสินธุ์ หมายเลข 213 บริเวณกิโลเมตรที่ 14 ห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 16 กิโลเมตร
งามลือเลื่องหนองหาน : หนองหาน (ไม่ใช่หนองหาร) เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ รองจากบึงบอระเพ็ด ตั้งอยู่บริเวณอำเภอเมืองสกลนคร อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 77,000 ไร่ หรือ (123.2 ตารางกิโลเมตร) ความลึกเฉลี่ยประมาณ 2.0 – 10.0 เมตร หนองหาน ถือว่าเป็นแหล่งน้ำโบราณที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน มีตำนานรักเล่าสืบทอดกันมา ได้แก่ ตำนานความรักสุดซึ้ง ระหว่างท้าวผาแดงนางไอ่กับหนึ่งหญิงสองชาย
แลตระการปราสาทผึ้ง : ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง ถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของจังหวัดสกลนคร ที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัด โดยจะจัดขึ้นในช่วงเดือน 11 หรือช่วงเทศกาลออกพรรษา ถือว่าเป็นงานที่แสดงถึงความรักสามัคคีของชาวจังหวัดสกลนครทุกภาคส่วนทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน เพื่อนำปราสาทผึ้งไปถวายวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
สวยสุดซึ้งสาวภูไท : ชนเผ่าภูไท เป็นอีกกลุ่มชนหนึ่งซึ่งเดิมมาจากแคว้นสิบสองจุไทย และอาณาจักรล้านช้าง แล้วกระจายอยู่สองฝั่งแม่น้ำโขง ภูไท มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะภาษาพูดที่ไพเราะ มีเครื่องแต่งกายที่งดงาม มีศิลปะการแสดงที่อ่อนซ้อยอย่างยิ่ง
ถิ่นมั่นในพุทธธรรม : สกลนคร เป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนา มีพระเถระผู้ทรงคุณธรรมมากมายแต่อดีต เช่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ฝั้น เป็นต้น พุทธศาสนิกชนยังคงเหนียวแน่นในพระพุทธศาสนาจนถึงทุกวันนี้
| อำเภอ | คำขวัญ |
|---|---|
| 1.อำเภอกุสุมาลย์ | ดินแดนดอกกระเจียว เขียวผักหวาน ยอดอาหารไข่มดแดง แมงแคงจักจั่น ลื่อลั่นประเพณีวัฒนธรรม |
| 2.อำเภอกุดบาก | ดินแดนแห่งที่ราบหุบเขา แหล่งปลูกข้าวปลูกหวาย หลากหลายวัฒนธรรมชุมชนผู้นำเสรีไทย ระบือไกลหมูกี้ ถิ่นผู้ดีเผ่ากะเลิง |
| 3.อำเภอพรรณานิคม | พระธาตุภูเพ็กงดงาม วัดถ้ำขามร่มรื่น ภาคพื้นกสิกรรม วัฒนธรรมเผ่าภูไท ธรรมะสดใสหลวงปู่ฝั้น |
| 4.อำเภอพังโคน | เจดีย์หลวงปู่คำ วัฒนธรรมเซิ้งผีโขน พังโคนเมืองไก่ย่าง เขื่อนกว้างลำน้ำอูน ถิ่นสมบูรณ์จำปาชนบท ดั่งปรากฎช้างงามนามพังโคน |
| 5.อำเภอวาริชภูมิ | หวายแก้ววาริช แหล่งผลิตยางพารา งามตาผ้าไหม สาวภูไทสวยล้ำ อุตสาหกรรมนมสด เรืองโรจน์วัฒนธรรม |
| 6.อำเภอนิคมน้ำอูน | แหล่งผลไม้นานา ยางพาราคู่เมือง มุ่งประเทืองธรรมะ |
| 7.อำเภอวานรนิวาส | วานรเมืองธรรมะ วัดเสพระตะเคียนใหญ่ หินเหิบไหมมัดหมี่ คอนศรีข้าวเหม่าหวาน หนองม่วงงานแข่งเรือ ม่วนเหลือบุญพระเวสสันดร ออนซอนอ่างเก็บน้ำห้วยโทง |
| 8.อำเภอคำตากล้า | ดินดำน้ำชุ่ม ปลาชุมข้าวงาม น้ำสงครามยิ่งใหญ่ สาวภูไทสุดสวย เลอล้ำด้วยวัฒนธรรม ถิ่นน้อมนำหลักธรรม |
| 9.อำเภอบ้านม่วง | ศูนย์ศิลปาชีพบ้านจาร ถิ่นฐานภูไท ลำน้ำใหญ่สงคราม สวยลือนามแก่งเต่าลี่ผี พุทธสถานงามดีศิลาอาสน์ |
| 10.อำเภออากาศอำนวย | พระแก้วคู่บ้าน ศาลเจ้าปู่คุ้มเมือง งามลือเลื่องผ้ามัดหมี่ ประเพณีไหลเรือไฟ ปลาใหญ่ลุ่มน้ำยาม สวยงามโย้ยกองเลง |
| 11.อำเภอสว่างแดนดิน | แดนดินถิ่นไทย้อ พบพ้อแหล่งโบราณ สืบสานประเพณี มีหนองคูคู่บ้าน ตำนานแดนเมืองเก่า ศาลเจ้าดอนปู่ตา ปราสาทขอมล้ำค่า ถิ่นคนกล้าวีรชน |
| 12.อำเภอส่องดาว | พระมุจลินท์ล้ำค่า งามสง่าพิพิธภัณฑ์ เก้าชั้นน้ำตก ผาน้ำโจ้กตระการตา สูงค่าผาผักหวาน |
| 13.อำเภอเต่างอย | ต้นยางยักษ์หลายร้อยปี โบราณคดีบึงสา ใบเสมานาตาล แหล่งเชี่ยวชาญด้านไม้กวาด อุทยานแห่งชาติภูผายล ถิ่นรวมพลเสรีไทย ไหลเรือไฟลำน้ำพุง |
| 14.อำเภอโคกศรีสุพรรณ | วัดดอยเด่นเป็นสง่า งามโสภาสาวภูไท ถิ่นผ้าไหมเนื้อดี กล้าไม้มีศรีบ้านด่าน ทิวภูพานตระหง่านล้ำ วัฒนธรรมนำประชา |
| 15.อำเภอเจริญศิลป์ | หนองทุ่งมนแสนงาม กุดนาขามเลืองชื่อ ร่วมนับถือหลวงพ่อองค์คำ ไหมงามล้ำน้ำนมดี ถิ่นนี้คือเจริญศิลป์ เจริญสิน เจริญศีล |
| 16.อำเภอโพนนาแก้ว | โพนนาแก้ว แนวหนองหาร บ้านดินดี มีเห็ดเผาะ เสนาะดนตรีพื้นเมือง งามประเทืองประตูน้ำก่ำ วัฒนธรรมผ้าลายมุก |
| 17.อำเภอภูพาน | ธรรมชาติหลากหลาย มากมายไม้ผล ภูผายลภาพเขียนสีประวัติศาสตร์ สวยสะอาดเขื่อนน้ำพุง |
| 18.เมืองสกลนคร | พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาน แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวภูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม |
มีข้อโต้แย้งกันว่า หนองหาน ควรเขียนว่า หนองหาน น หนู สะกด หรือ เขียนว่า หนองหาร ร เรือ สะกด ผมให้ข้อคิดว่า ควรเขียนเป็น หนองหาน น หนู สะกด ด้วยเหตุผลว่า
1.หนองหาน เป็นภาษาโบราณ ภาษาท้องถิ่น โดยมากจะสะกดตรงตัว เช่น กิน ไม่สะกด เป็น กิร
2.คำว่า หาน น่าจะมาจากคำว่า หานะ ในภาษาบาลีที่แปลว่า ความเสื่อม, ความทรุดโทรม. หนองหาน จึงหมายถึงว่า หนองที่เกิดจากความเสื่อมศีลธรรมของคนในยุคนั้น หรือ หนองที่เกิดจากการทรุดลงของเมืองอันเกิดจากนาคตามตำนานผาแดงนางไอ๋ ส่วน wikipedia ให้ข้อมูลว่า “สันนิษฐานว่าหนองหานเกิดจากการยุบตัวของแผ่นเปลือกโลกอันเนื่องมาจากการถูกชะล้างของชั้นหินเกลือใต้ดินจนเกิดโพรงขนาดใหญ่ และเกิดการพังทลายยุบตัวลงเป็นหนองน้ำในเวลาต่อมา” ก็ตรงความหมายกับคำว่า หานะ ที่แปลว่า “ความเสื่อม, ความทรุดโทรม. “
3.ตำนานหนองหานหลวง ตำนานผาแดงนางไอ๋ ตำนานพระธาตุเชิงชุม ตำนานเหล่าใดที่เขียนบนใบลาน ตำนานเหล่านั้นก็ใช้คำว่าหนองหาน ไม่ได้ใช้คำว่า หนองหาร
4.คำขวัญประจำจังหวัดสกลนคร ก็ใช้คำว่า…งามลือเลื่องหนองหาน…แต่ไหนแต่ไรมา
5.เมื่อก่อน ป้ายถนนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับหนองหาน ก็ใช้คำว่า หนองหาน แต่ทุกวันนี้อาจจะเปลี่ยนไปแล้ว
6.อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ซึ่งอยู่ห่างออกไป แต่ก็อยู่ในอีสานตอนบนเหมือนกัน ก็ใช้คำว่า หนองหาน
7.ถ้าคำว่า “หาร” ไม่มีใช้ในสมัยโบราณ (การกระทำที่เรียกว่าหาร หรือแบ่งปันกันมี แต่คำว่าหารยังไม่มีใช้)
ด้วยเหตุผลข้างต้น ใคร หรือหน่วยงานใด ที่เปลี่ยนจากหนองหาน มาเป็น หนองหาร จึงควรทำให้เหตุผลหรืออธิบายชี้แจงว่า ทำไมจึงต้องเปลี่ยนเป็น หนองหาร คำว่า หนองหาร แปลว่าอะไร มีที่มาอย่างไร
คำบางคำที่เขียนมาแต่เดิม เป็นคำเฉพาะ โดยเฉพาะชื่อเรียกสถานที่ กลุ่มคน เราก็ควรรักษาไว้ เช่น คำว่า ภูไท ไม่ต้องเปลี่ยนเป็น ภูไทย หรือ ผู้ไทย แต่ใช้คำว่า ภูไท เหมือนเดิม คำว่า หนองหาน ก็เหมือนกัน ควรใช้คำว่า “หนองหาน” เช่นเดิม
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook